1. การงีบ 10-20 นาที จะทำให้ร่างกายตื่นตัวและเพิ่มพลังให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ดีในช่วงเวลานี้จะสามารถปลุกให้ตื่นได้ง่าย 2. การงีบ 30 นาที แต่ว่าในการงีบหลับนาน 30 นาที หากทำให้ตื่นขึ้นมามักจะมีอาการเหมือนการแฮงค์โอเวอร์ ซึ่งทำให้ร่างกายรู้สึกเฉือยๆ ไม่ประปรี้ประเปร่า 3. การงีบ 60 นาที ช่วงนี้การนอนจะมีผลต่อการส่งคลื่นสั้นๆต่อสมองอยู่ในระยะหลับลึก มีผลต่ความจำทำให้จดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่การตื่นของช่วงเวลานี้จะรู้สึกงีวเงียและตื่นยากกว่าปกติ 4. การงีบ 90 นาทีหรือการครบวงจรการหลับ ช่วงนี้เป็นการหลับที่สมบูรณ์ สมองจะได้พักเต็มที่ ช่วยในเรื่องของความจำ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และยังทำให้ร่างายนั้นสดชื่นประปรี้ประเปร่าอีกด้วย
เลือกช่วงเวลาและระยะเวลาในการงีบที่เหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้งีบหลับในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อฝึกร่างกายให้งีบระหว่างวันได้ง่ายขึ้น โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือระหว่าง 13. 00 น. ถึง 15. และควรตั้งนาฬิกาปลุกจับเวลาไว้ประมาณ 15 ถึง 20 นาที เพื่อควบคุมการงีบให้อยู่ในช่วงของ Power Nap ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นมากที่สุด 2. จัดเตรียมสถานที่ให้พร้อมงีบ การเลือกสถานที่และจัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่การงีบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพักผ่อนสมองและร่างกายได้อย่างเต็มที่แม้จะใช้เวลางีบเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม โดยมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมที่มืด เย็นสบาย และปราศจากเสียงรบกวนนั้นเอื้อต่อการงีบหลับได้ดีที่สุด 3. ดื่มกาแฟก่อนงีบ Biohackers ได้เผยแพร่แนวคิด Coffee Nap คือ การดื่มกาแฟหนึ่งถ้วยแล้วงีบหลับทันทีเป็นเวลา 20 นาที เนื่องจากคาเฟอีนจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายซึ่งเป็นระยะเวลาที่เท่ากับช่วง Power Nap พอดี จึงช่วยให้คุณตื่นจากการงีบหลับด้วยความรู้สึกสดชื่นและมีพลังในการทำงานมากขึ้นเป็นพิเศษ 4.
งีบ แค่ 20 นาที ก็เพิ่มพลังความจำให้สมองได้! เชื่อหรือไม่?