Alanine aminotransferase (ALT) หรือ serum glutamate pyruvate transaminase (SGPT) เช่นเดียวกับ AST แต่จำเพาะต่อตับมากกว่า. Alkaline phosphatase (ALP) เป็นเอนไซม์ที่พบได้ทั้งในตับ ท่อน้ำดี และกระดูก – ค่าสูงขึ้นเมื่อมีการสลายเนื้อเยื่อกลุ่มดังกล่าว – ค่าปกติ 20-140 IU/L
ผื่นบริเวณใบหน้าและมีการกระจายเป็นรูปผีเสื้อ 2. ผื่นผิวหนังชนิดที่เรียกว่าผื่นดีสคอยด์ พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า ใบหู ลำตัว และแขนขา 3. อาการแพ้แดด โดยมีผื่นผิวหนังแดงอย่างรุนแรงเมื่อโดนแดด 4. แผลในปาก 5. ข้ออักเสบ 6. ไตอักเสบ โดยปริมาณโปรตีนหรือไข่ขาวในปัสสาวะมากกว่าปกติ 7. อาการชักหรืออาการทางระบบประสาทอื่นๆ 8. เยื่อหุ้มปอดหรือหัวใจหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ 9. อาการซีด เม็ดเลือดขาวต่ำ หรือเกล็ดเลือดต่ำ (ที่ไม่ได้เกิดจากยาหรือการติดเชื้อ) 10. ตรวจพบแอนตินิวเคลียร์แอนติบอดี (antinuclear antibody) ในเลือด 11. ตรวจพบแอนติบอดีต่อดีเอ็นเอ (anti-dsDNA) หรือการตรวจพบแอนติฟอสโฟไลปิดแอนติบอดี หรือการตรวจเลือดพบผลบวกปลอมต่อการตรวจซิฟิลิส เนื่องจากการรักษาโรค SLE มีระยะการรักษาที่ยาวนาน นอกจากการรักษาโรคแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลตนเอง โดยควรทำความเข้าใจ ธรรมชาติ และกลไกการเกิดโรค รวมทั้งเข้าใจเหตุผลของการประเมิน ติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ดังนี้ 1. ทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด 2. พักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 3. รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะและครบหมู่ ควรรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์และปรุงสุก 4.
Nervous system ชัก หรือ โรคจิต A ชัก โดยไม่ใช่สาเหตุจากยาหรือความผิดปกติทางเมตะบอลิสม เช่น uremia, ketoacidosis หรือการไม่สมดุลของเกลือแร่ เป็นต้น หรือ B โรคจิต ที่ไม่ได้เกิดจากยาหรือความผิดปกติทางเมตะบอลิสม เช่น uremia, ketoacidosis หรือการไม่สมดุลของเกลือแร่ เป็นต้น 9. Blood RC/WBC/L/Plt ต่ำ A hemolytic anemia ร่วมกับการเพิ่มขึ้นของ reticulocyte หรือ B เม็ดเลือดขาวตํ่ากว่า 4, 000 เซลล์ / มม 3 โดยตรวจพบอย่างน้อย 2 ครั้ง หรือ C ลิย์มโฟซัยท์ตํ่ากว่า 1, 500 เซลล์ / มม. 3 โดยตรวจพบอย่างน้อย 2 ครั้ง หรือ D เกร็ดเลือดตํ่ากว่า 100, 000 เซลล์ / มม. 3 โดยไม่ใช่สาเหตุจากยา 10. Immunologic A ตรวจพบ anti-native DNA (ds-DNA) ในขนาดที่สูงกว่าคนปกติ หรือ B ตรวจพบ anti-Sm antibody หรือ C ตรวจพบ antiphospholipid antibody โดย (1) พบระดับ IgG หรือ IgM anticardiolipin antibody ในปริมาณที่สูงกว่าคนปกติ (2) ตรวจพบ lupus anticoagulant ด้วยวิธีมาตรฐาน (3) ตรวจ serology สำ หรับซิฟิลิสให้ผลบวกลวง เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งทำ การยืนยันด้วย treponema palladium immobilization หรือ fluorescent treponemal antibody absorption test 11.
QxDx: อย่างน้อย 4 in 11 Skin 4 ข้อ: ผื่นแดง ผื่นนูน ผื่นแพ้แสง แผลในปาก Systemic 5 ข้อ ข้ออักเสบ สมองชัก/โรคจิต ปอดหัวใจ/serositis ไต/ไข่ขาว/cast เลือดRWPต่ำ Lab 2 ข้อ Immune +, ANA + ส่งตรวจ CBC, UA, EKG, CXR, joint Xray, AntiDND, Antism, ANA profile การวินิจฉัย ต้องเข้าเกณฑ์ อย่างน้อย 4 ใน 11 ข้อ เป็น อาการแสดง และ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ร่วมกัน ข้อควรสังเกตสำหรับการวินิจฉัย 1. ต้องแยกภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อและอื่น ๆ ออกไปก่อน 2. มีอาการแสดงไม่ครบเกณฑ์การวินิจฉัย SLE ควรให้การวินิจฉัยว่าเป็น probable SLE (**ให้การรักษาตามแนวทางการรักษาโรค SLE แต่ ** ควร ติดตามอาการและอาการแสดงในระยะยาวเพื่อการรวินิจฉัยที่แน่นอน) 3. การวินิจฉัยโรค SLE อาศัยลักษณะอาการทางคลินิกเป็นหลัก เกณฑ์ในการวินิจฉัยโรค SLE อาศัยเกณฑ์ในการวินิจฉัยตาม 1982 The American College of Rheumatology revised criteria for the classification of systemic lupus erythematosus ร่วมกับ 1997 Updating Classification criteria ข้อวินิจฉัย คำจำกัดความ 1. Malar rash ผื่นแดง ราบหรือนูนบริเวณโหนกแก้ม ส่วนใหญ่ไม่ involve naso-labial fold 2.
ความไวสูงหมายถึง ถ้าผป.
7, 1:80 ได้ร้อยละ 13. 3, 1:160 ได้ร้อยละ 5 และ 1:320 ได้ร้อยละ 3.
Discoid lesion ผื่นนูนแดง ขอบเขตชัดเจน มีสะเก็ด, มี follicular plugging อาจพบลักษณะ atrophic scar ในรอยโรคเก่า 3. Photosensitivity เป็นผื่น แพ้แสง มากผิดปกติ สังเกตโดยผู้ป่วยเองหรือแพทย์ 4. Oral ulcer เป็นแผลในปาก หรือ nasopharynx, มักเป็น แผลที่ไม่เจ็บ, สังเกตโดยแพทย์ 5. Arthritis อาการ+xray ข้อ -ข้ออักเสบมากกว่า 2 ข้อ โดยมีลักษณะข้อบวม ปวด และมีนํ้าไขข้อ -แต่ไม่มี ลักษณะกระดูกกร่อน (erosion) ในภาพรังสี 6. Serositis อาการ+CXR A เยื่อหุ้มปอดอักเสบ Hx/Pleural rub/Pleural effusion -วินิจฉัยจากประวัติ เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าออก, หรือ -ฟังได้เสียงเสียดสีของเยื่อหุ้มปอด (pleural rub) โดยแพทย์, หรือ -การตรวจ พบนํ้าในช่องเยื่อหุ้มปอด หรือ B เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ EKG/pericardial rub/pericardial effusion -วินิจฉัยจากการเปลี่ยนแปลงทางคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, หรือ -ฟังได้เสียงเสียดสีของเยื่อหุ้มหัวใจ (pericardial rub) โดยแพทย์, หรือ -ตรวจพบนํ้าในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ 7. Kidney UA A ตรวจพบไข่ขาว ในปัสสาวะ (proteinuria) มากกว่า 0. 5 กรัม / วัน ตลอดเวลา หรือพบไข่ขาวในปัสสาวะตั้งแต่ +3 ( ถ้าไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแน่นอน) หรือ B มี cast ซึ่งอาจเป็นชนิดเม็ดเลือดแดง, ฮีโมโกลบิน, granular, tubular หรือพบร่วมกัน 8.
หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจ้า ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเมื่อต้องออกไปกลางแดด 5. อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น 6. ไม่ควรตั้งครรภ์ ในขณะที่โรคยังรุนแรงหรือกำลังกำเริบ 7. รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ 8. ปรึกษาแพทย์ หากสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อ เช่น มีไข้ มีแผล ฝี หนอง ไอ ปัสสาวะแสบขัด ท้องร่วง หรือต้องรับการรักษาอื่นๆ เช่น การทำฟัน หรือต้องเข้ารับการผ่าตัด ทั้งนี้เพื่อให้แพทย์ปรับยา หยุดยา หรือพิจารณาให้ยาตามความเหมาะสม หรือมีอาการผิดปกติที่อาจบ่งชี้ว่าโรคกำเริบ เช่น อาการไข้ อ่อนเพลียมีผื่นขึ้นมากกว่าเดิม ปวดข้อ ผมร่วง มีแผลในปาก เป็นต้น 9. ติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอและไม่ควรหยุดยาเอง เนื่องจากในบางครั้งอาจทำให้โรคกำเริบอย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้
Hemoglobin A1C (HA1C) ตรวจวัดโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำปฏิกิริยากับน้ำตาลในเลือด บ่งชี้ค่าเฉลี่ยนน้ำตาลในเลือด ระยะ 8 – 12 สัปดาห์ – ค่าปกติ 4. 8 – 6. 0% – มากกว่า 6. 5% เป็นเบาหวาน – ติดตามน้ำตาลในระยะยาวได้แม่นยำกว่า Low-density lipoprotein (LDL-cholesterol) ไขมันเลว (ยิ่งสูงยิ่งอันตราย) – ค่าปกติ 0 – 100 mg/dL – ค่าสูง มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยตรง High-density lipoprotein (HDL-cholesterol) ไขมันดี (ยิ่งสูงยิ่งดี) – ค่าปกติ > 40 mg/dL Total cholesterol ค่าปกติ 0 – 200 mg/dL Triglyceride ไขมันที่ถูกสะสมในเซลล์ไขมัน ค่าปกติ 0 – 150 mg/dL Albumin คือโปรตีนไข่ขาว สำคัญต่อการรักษาสภาวะสมดุลของน้ำในหลอดเลือดของร่างกายอย่างมาก ค่าปกติ 3. 5 – 5 mg/dL. Total bilirubin เป็นผลผลิตจากการสลาย Hemoglobin ในเม็ดเลือดแดง เป็นค่าที่บางบอกภาวะ Jaundice หรือดีซ่าน ค่าปกติคือ 0 – 1. 4 mg/dL และแบ่งย่อยออกเป็น – Direct billirubin (ชนิดละลายน้ำ) ค่าปกติ 0. 1 – 0. 3 mg/dL – Indiirect billirubin (ชนิดไม่ละลายน้ำ) ค่าปกติ 0. 2 – 1. 2 mg/dL. Aspartate aminotransferase (AST) หรือ serum glutamic oxalocetic transaminase (SGOT) เป็นเอนไซม์ที่พบได้ทั้งในตับ กล้ามเนื้อและหัวใจ โดยร่างกายจะหลั่งเอนไซม์นี้ออกมามากขึ้นเมื่อมีการทำลายเซลล์ดังกล่าว ความจำเพาะเจาะจงต่อตับจึงไม่มาก – ค่าปกติ 0 – 35 IU/L – ใช้พิจารณาประกอบกับ ALT, ALP.