ทางด้านบนของหน้าจอ เพื่อเปิดเมนู pop-up 5 แตะ Do not auto-update apps. ทางด้านบนของเมนู pop-up เพื่อปิดการอัพเดทแอพอัตโนมัติ ทุกแอพรวมทั้ง Google Chrome จะไม่อัพเดทอัตโนมัติอีกต่อไป เคล็ดลับ การปิด Chrome Update เหมาะสำหรับใครที่อยากใช้ Chrome เวอร์ชั่นเก่าต่อไป หรือใช้ในคอมเก่าที่อาจไม่รองรับโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ๆ คำเตือน ระวังว่าถ้าปิดการอัพเดท Chrome อัตโนมัติ อาจเปิดช่องให้คอมติดไวรัสหรือถูกแฮกข้อมูลได้ง่ายกว่าเดิม เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 26, 513 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
หาคำว่า Windows Update (เพื่อเราจะไปปิดการอัพเดทกัน) ไอคอมจะเรียงตามตัวอักษรครับ พอมาหน้านี้ จะ เห็น โล่สีเขียว หมายถึงได้รับการปกป้อง และ อัพเดทระบบปฏิบัติการ ครับ เดี๋ยวเราจะมาทำการปิดการอัพเดทกัน มองที่เมนูทางซ้ายครับ หาคำว่า: Change settings แล้วคลิกซ้ายเพื่อเลือกครับ เลือกตามภาพได้เลยครับ เราจะมาตั้งค่าที่หน้านี้กันครับ ให้คลิก ตรงคำว่า Install updates automatically จะมีเมนูขึ้นมา (ให้ดูภาพต่อไปครับ) ค่อยๆ ทำตามภาพนะครับ เลือก Never check for updates (เพื่อปิดระบบอัพเดทวินโด้ครับ) และติ๊ก เครื่องหมายถูกออกให้หมดทั้ง 2 เมนู (ตามรูป) ระวัง!!
โดยเป็นของ "Google Inc. " ทั้งคู่ และจะอยู่ติดกัน [1] คุณจัดเรียง service ตาม manufacturer หรือผู้ผลิตได้ โดยคลิก tab Manufacturer ทางด้านบนของหน้าต่าง 10 เอาติ๊กออกจากช่อง "Google Update Service". โดยคลิกช่องที่ติ๊กไว้ ทางซ้ายของ "Google Update Service" แต่ละช่อง 11 คลิก Apply. ที่ท้ายหน้าต่าง เพื่อปิด Google Update ทั้ง 2 services 12 คลิก OK. ที่ท้ายหน้าต่าง 13 คลิก Restart ตอนที่ขึ้น. เพื่อให้คอมเซฟค่าใหม่แล้วรีสตาร์ท เท่านี้ Google Chrome ก็จะไม่อัพเดทอัตโนมัติอีกต่อไป 1 คลิก Go. เป็นเมนูทางด้านบนของหน้าจอ Mac คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา ถ้าไม่มีเมนู Go ให้คลิกที่ desktop หรือเปิด Finder เพื่อแสดงเมนู 2 กด ⌥ Option ค้างไว้. เป็นปุ่มทางซ้ายล่างของคีย์บอร์ด กดแล้วโฟลเดอร์ Library จะโผล่มาในเมนู Go ที่ขยายลงมาได้ 3 คลิก Library. ทางด้านล่างของเมนู Go ที่ขยายลงมา เพื่อเปิดโฟลเดอร์ Library 4 เปิดโฟลเดอร์ "Google". เลื่อนลงไปจนเจอโฟลเดอร์ชื่อ "Google" แล้วดับเบิลคลิกเลย 5 เลือกโฟลเดอร์ "GoogleSoftwareUpdate". ให้คลิกโฟลเดอร์นี้ในโฟลเดอร์ Google 6 คลิก File. ที่เป็นเมนูมุมซ้ายล่างของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา 7 คลิก Get Info.
ปิดอัพเดท Windows 11 ปิดอัพเดทวินโดว์11 ถาวร (แค่ 2 คลิ๊กโครตจะง่าย) - YouTube
สวัสดีครับทุกท่าน.. วันนี้ผมจะมาบอกวิธีการปิด Windows Update อ้าว!! ปิดทำไมหล่ะ เดี๋ยวไวรัส หรือระบบก็ถูกแฮกหรอก ใช่ครับ ทั้งเสี่ยงไวรัส ทั้งเสี่ยง เรื่องการถูกแฮก แล้วทำไมผมถึงต้องมาบอกวิธีการปิดด้วยหล่ะ?? เคยไหมครับ ที่เวลาเราจะปิดเครื่องแต่ต้องมารอโหลด อะไรก็ไม่รู้ แถมยังมาเตือนอีกว่า "ห้ามปิดเครื่องนะ" เคยรำคาญไหมครับ!! บางที รำคาญมากๆ ก็กดที่ปุ่ม Power ค้างให้เครื่องดับไปก็มี ไม่ใช่เรื่องดีแน่ครับ ที่เราต้องมารอ หรือ มากดปิดไปซะดื้อๆ ขนาดนั้น ==================================== โชคยังเข้าข้างคุณอยู่ครับ ที่เครื่องยังสามารถเปิดมาทำงานได้อยู่ เพราะมีหลายต่อหลายเครื่องที่ผมเจอ ปิดไปแล้วเปิดเครื่องมาใหม่ก็วนรีสตาร์ทอยู่อย่างนั้น =================================== ถ้าปิดตัว Windows Update ไปแล้ว จะสามารถเปิดให้ทำงานใหม่ได้ไหม?? – ตอบเลยครับว่า ได้อย่างแน่นอน เช่น ถ้าเราพร้อมให้ Update Windows ก็มาเปิดใหม่ได้ไม่ว่ากัน มาเริ่มกันเลยครับ!! ให้ กดที่ Start 2. คลิกเลือกที่ Control Panel เพื่อเข้าไปตั้งค่าครับ ภาพแสดงการกด Control Panel หน้าจอ Control Panel จะขึ้นมา ผมจะทำให้.. เลือกเมนูให้ดูง่ายกว่านี้หน่อยครับ เลือกเมนูย่อยที่มุมขวา View by: เป็น Small icons ส่วนใหญ่ผมจะเลือกใช้แบบ Small icons นี้ครับ หาเมนูง่ายดีครับ 5.
สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดด้านบนนี้ทำได้โดยการเปิด Automatic Updates ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กรณีด้วยกัน คือ อัพเดต Windows Server 2012 R2 โดยอัตโนมัติ และ อัพเดต Windows Server 2012 R2 เอง กรณีที่ 1 ทำการอัพเดต Windows Server 2012 R2 โดยอัตโนมัติ 1. คลิกขวาบน Start หรือกด Windows + X จากนั้นเลือก Control Panel 2. บนหน้า Control Panel (เลือกมุมมองแบบ Small icons) ให้คลิก Windows Update 3. บนหน้า Windows Update ดังรูปที่ 1 ให้คลิก Turn on automatic updates การตั้งค่าตามกรณีที่ 1 นี้ Windows Server 2012 R2 จะทำการตรวจสอบอัพเดต ดาวน์โหลดและติดตั้งอัพเดต (ถ้ามี) โดยอัตโนมัติในช่วงเวลา Automatic Maintenance ซึ่งโดยเริ่มต้นคือเวลา 02:00 น. ของทุกวัน รูปที่ 1 กรณีที่ 2 ทำการอัพเดต Windows Server 2012 R2 เอง 3. บนหน้า Windows Update ดังรูปที่ 1 ให้คลิก Let me choose my settings 4.