✅ บทความนี้ได้รับการตรวจสอบแล้ว KEY POINTS: โรคหนองใน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจส่งผลให้เป็นหมัน และเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ ในผู้หญิงที่เป็นโรคหนองในกว่า 50% จะไม่แสดงอาการ ทำให้ไม่รู้ว่ามีเชื้อหรือได้รับเชื้อ จนกระทั่งเกิดอาการปัสสาวะติดขัด ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือพบหนองในช่องคลอดแล้ว นอกจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว การกอด จูบ การใช้ผ้าเช็ด แก้ว จาน ชามร่วมกัน หรือแม้แต่ว่ายน้ำในสระเดียวกับผู้ป่วย ก็สามารถติดโรคหนองในได้ Table of Contents โรคหนองในคืออะไร? หนองในเทียมคืออะไร? สาเหตุของโรคหนองใน อาการของโรคหนองใน เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์? การรักษาโรคหนองใน การป้องกันโรคหนองใน การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคหนองใน คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหนองใน โรคหนองในคืออะไร? โรคหนองใน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Gonorrhoea เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย โกโนเรีย (Neisseria Gonorrhoea) โดยแบคทีเรียชนิดนี้ ทำให้เกิดการติดเชื้อโดยเฉพาะในที่หลอดปัสสาวะ ช่องคลอด ปากมดลูก ทวารหนัก ลำคอ เยื่อบุมดลูก ท่อรังไข่ และตา อีกทั้งทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น เป็นหมัน ปวดท้องน้อยเรื้อรัง และตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งผู้ที่เป็นหนองในสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายหากไม่ใช้ ถุงยางอนามัย ขณะมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน หนองในเทียมคืออะไร?
พบว่า มีลักษณะหนองขุ่นข้นๆ สีเหลืองหรือสีขาวไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ รู้สึกแสบขัดเวลาปัสสาวะ รอบรูอวัยวะเพศเป็นสีแดง มีของเหลวไหลออกมาจากทวารหนัก เจ็บคอ คอแห้ง และรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว หากไม่ได้รับการรักษาหรือปล่อยไว้นาน เชื้ออาจลุกลามสู่อัณฑะเสี่ยงเป็นหมันได้ หนองในในผู้หญิงมีอาการอย่างไร? พบว่า มีหนองที่ช่องคลอด ช่องคลอดอักเสบ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปัสสาวะแสบขัด เจ็บบริเวณอุ้งเชิงกราน โดยเฉพาะขณะมีเพศสัมพันธ์ มีของเหลวไหลออกจากทวารหนัก มีหนองที่ช่องคอ เจ็บคอ คอแห้ง และรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว หากปล่อยไว้นานไม่รีบรักษา เชื้ออาจลุกลามไปสู่มดลูกและท่อรังไข่ เสี่ยงเป็นโรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ รวมไปจนถึงเป็นหมันได้ ตกขาวหนองในเป็นอย่างไร?