Learn Chinese Now มีคนสอนหลักเป็นฝรั่งนะคะ และมีคนสอนเสริมอีกหลายๆ คน สอนเรื่องคำแสลง ประโยคที่น่าสนใจต่าง ๆ (แอบกระซิบนิดคนสอนหล่ออ่ะ อุ อุๆ เอาใจแฟนเพจสาวๆ ของสุ่ยหลิน และมาแข่งกะข้อ 7 ข้างบน) 9. Chinese Class 101 มีคลิปวีดีโอสอนที่หลากหลายมากๆ ค่า สอนกันตั้งแต่ประโยคง่ายๆ สอนคำศัพท์ มีภาพประกอบ สอนออกเสียง เหมาะสำหรับเด็กๆ เวลาเรียนภาษาจีนด้วย นอกจากนี้เค้ายังมีคลิปสอนเวลาไปท่องเที่ยวจีนด้วย พร้อมสอนเทคนิคเอาตัวรอดด้วยนะจ๊ะะ 10. Chinese Corner ช่องนี้จุดเด่นที่ CCTV ลงมาทำเองค่าา ไม่ได้เป็นติวเตอร์อิสระหรือโรงเรียนสอนภาษาแต่อย่างใด มีซีรีย์การสอนภาษาจีนเป็นชุดๆ ตอนๆ เลยนะ ตั้งแต่ Travel in China, Happy Chinese, Growing up with Chinese และ Real Chinese. คนที่เป็นพิธีกรของ Travel in China เป็นฝรั่งที่ดังมากในเมืองจีนค่าา (เทียบกับของไทยก็ประมาณอ. อดัมหรืออ. คริสดิลลิเวอรี่) ที่สำคัญเค้าพูดภาษาจีนชัดเปร๊ยะด้วย ช่องนี้เราได้เรียนทั้งฟัง พูด ตัวจีนและวัฒนธรรมจีนด้วยหมดเรยยย สุ่ยหลินว่าเราใช้เวลาวันละ 15-20 นาทีดูสัก 2-3 คลิปในแต่ละวันก็โอแล้วค่ะ มีคนทำคลิปน่าสนใจออกมาเยอะแยะเลยนะ ทั้งหมดดูฟรีไม่เสียตังค์สักบาท แล้วจะรออะไรอยู่คะ ต้องจัดแล้วน้าาาาา กดรัวๆๆ ว่าแต่เอ.. สุ่ยหลินทำคลิปมั่งจะมีคนดูไหมเอ่ย?
"剪" ใช้กรรไกร "ตัด" สิ่งของที่เป็นแผ่น หรือเป็นเส้นให้ขาดออกจากกัน เช่น 剪纸 (ตัดกระดาษ)、剪报 (ตัดข่าวหนังสือพิมพ์) 4. "锯" ใช้เลื่อย "ตัด" หรือ "เลื่อย" สิ่งของให้ขาดออกเป็นท่อน, เป็นชิ้น, เป็นแผ่น ฯลฯ เช่น 锯树 (เลื่อยต้นไม้)、锯木头 (เลื่อยไม้) ถ้าสังเกตให้ดี คำกริยาเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีมีด (刀) หรือของมีคม (刂,立刀旁) เป็นส่วนประกอบ ยกเว้น "拉"(ความหมายเดิม แปลว่า "ลาก" หรือ "ดึง"), "锯"(คำนาม คือ "锯子"(เลื่อย)) nthasith Lertpraingam
เริ่มเรียนแปดโมง เค้าแปดโมงครึ่งเพิ่งจะมา (ไมไม่มา 9 โมงไปเลยล่ะจ๊ะ -ความรู้สึกของคนพูด ซึ่งอาจเป็นอาจารย์วิชานั้น ><') 他 早上六点 就 起床 。 [Tā zǎoshang liù diǎn jiù qǐchuáng. ] เค้าเพิ่งจะหกโมงเช้าก็ตื่นแล้ว (โหห.. ตื่นเช้าอ่ะ เราตื่น 7 โมงแน่ะ –ความรู้สึกของคนพูด) 他 早上八点 才 起床 。 [Tā zǎoshang bā diǎn cái qǐchuáng. ] เค้าแปดโมงเช้ากว่าจะตื่น (โหห…มิน่ามาสายทูกวันน –ความรู้สึกของคนพูด) 我们班 就 有 十个日本学生 ,他们班 才 有 三个日本学生 。 Wǒmen bān jiù yǒu shí gè Rìběn xuésheng, tāmen bān cái yǒu sān gè Rìběn xuésheng. ห้องเรามีนักเรียนญี่ปุ่นตั้ง 10 คน ห้องของพวกเขามีนักเรียนญี่ปุ่นแค่ 3 คน () เป็นไงมั่งคะ? หวังว่าคงพอเข้าใจกับอารมณ์ของประโยคที่มี 才และ 就 ว่าผู้พูดมีความรู้สึกยังไงในประโยค ต่อจากนี้ ถึงเวลาแบบฝึกหัดหรรษากันแล้ว อิ อิ ตกลงว่างานไหนยากกว่า? โน้ตนิดนึงว่า บางครั้ง การใช้ 才 และ 就 อาจจะไม่เกี่ยวกับว่า การกระทำนั้นเกิดช้าหรือเร็วกว่าที่ผู้พูดคาดการณ์ไว้ค่ะ แต่เกี่ยวกับความยากง่าย ความมากน้อย ความใหญ่เล็กหรืออื่นๆ ก็ได้ค่ะ เช่นประโยคแบบฝึกหัดนี้ค่า 两个人 就 能办好 。 Liǎng gè rén jiù néng bàn hǎo. 两个人 才 能办好 。 Liǎng gè rén cáinéng bàn hǎo.
ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียน OEC 我在OEC学校上学。 Wŏ zài OEC xuéxiào shàngxué. หว่อ ไจ้ OEC เสวียเสี้ยว ซั่งเสวีย 9. ฉันกำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 5 现在上高中二年级。 Xiànzài shàng gāozhōng èr niánjí เสี้ยนไจ้ ซั่ง เกาจง เอ้อร์ เหนียนจี๋ 10. ฉันพักอาศัยกับพ่อแม่ 我跟父母一起住。 Wŏ gēn fùmŭ yìqǐ zhù. หว่อ เกิน ฟู่หมู่ อี้ฉี่ จู้ 11. ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคุณ (ยินดีที่ได้รู้จัก) 很 高 兴 认 识 你 hěn gāo xìng rèn shí nǐ เหิ่น เกา ซิ่ง เริ่น สื่อ หนี่ 12. ฉันชอบเรียนภาษาจีน 我喜欢学汉语。 Wǒ xǐhuan xué hànyǔ. หว่อ สี่ฮวน เสีย ฮ่าน อยู่ร์ 13. งานอดิเรกของฉันคืออ่านหนังสือและเล่นอินเตอร์เน็ต 我的爱好是看书和上网。 Wŏ de àihào shì kàn shū hé shàngwăng. หว่อ เตอ ไอ้เห้า ซื่อ คั่น ซู เหอ ซั่งหวั่ง 14. กีฬาที่ฉันชื่นชอบคือว่ายน้ำ 我喜欢的运动是游泳。 Wŏ xǐhuān de yùndòng shì yóuyŏng. หวอ สี่ฮวน เตอ ยวิ่นต้ง ซื่อ โหยวหย่ง 15. ความฝันของฉัน ฉันอยากเป็นครูภาษาจีน 我的理想,我想当汉语老师。 Wǒ de lǐxiǎng, wǒ xiǎng dāng hànyǔ lǎoshī. หว่อ เตอ หลี เสี่ยง หวอ เสี่ยง ตาง ฮ่าน อยู่ร์ เหล่าซือ 16. คุณชื่ออะไร? 你 叫 什 么 名 ? nǐ jiào shén me míng หนี่ เจี้ยว เสิ่น เมอ หมิง?
คุณแพร: โรงเรียนสอนภาษาจีนโตมา เปิดสอนภาษาจีนให้กับบุคคลทั่วไปค่ะ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยส่วนมากจะเป็นการสอนแบบตัว ต่อ ตัว โดย เด็กเล็กที่สุดที่ทางโรงเรียนเคยสอนจะอยู่ที่ 2 ขวบครึ่งค่ะ โดยภาษาจีนที่โรงเรียนสอนจะมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับสูง มีทั้งเพื่อการสื่อสารและเพื่อการสอบ (HSK) ขึ้นอยู่กับระดับทักษะภาษาจีนของผู้เรียนเป็นหลักค่ะ บรรยากาศการเรียนภาษาจีนของ โรงเรียน TOMA "ลงทุนมัม": คุณครูที่มาสอนเด็กๆของ TOMA เป็นครูชาวจีนเจ้าของภาษา หรือ เป็นคนชาติอะไรคะ? แล้วใช้ภาษาอะไรในการทำการสอน? คุณแพร: ทางโรงเรียนสอนภาษาจีนโตมา จะเน้นมากเรื่องคุณภาพของครูผู้สอน เพื่อให้เด็กๆที่มาเรียนกับเราได้พัฒนาทักษะภาษาจีนให้ได้มากที่สุด โรงเรียนจึงเน้นครูผู้สอนเป็นครูคนจีนเจ้าของภาษา (ผู้หญิง) ที่สามารถสื่อสารภาษาจีน และ ภาษาไทย/อังกฤษ ได้ดี โดยคุณครูของเรานอกจากจะสื่อสารได้ดีแล้ว ยังต้องเป็นครูที่มีจิตวิทยาในการสอนเด็กที่ดีด้วยค่ะ เพื่อที่จะทำให้เด็กๆที่เรียนกับเรา สนุก เพลิดเพลิน และไม่เบื่อ ในการเรียนภาษาจีน "ลงทุนมัม": หลักสูตรภาษาจีนที่โรงเรียนใช้ และ หนังสือประกอบการเรียนเป็นอย่างไรคะ? คุณแพร: ทางโรงเรียนมีการวางหลักสูตรภาษาจีนร่วมกับครูเจ้าของภาษา และ หนังสือที่ใช้ส่วนมากจะเป็นหนังสือจาก Beijing Language University ค่ะ "ลงทุนมัม": ถ้าผู้ปกครองอยากให้ลูกเรียนภาษาจีน สามารถเริ่มเรียนภาษาจีนได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
บอกลาภาษาจีน คำกล่าวลา ประโยคบอกลา เรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง Skip to content บอกลาภาษาจีน คำกล่าวลา ประโยคบอกลา เรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง บอกลาภาษาจีน คำกล่าวลา ประโยคบอกลา ภาษาจีน บอกลาภาษาจีน – มีพบก็ต้องมีจากเป็นเรื่องธรรมดาของทุกคน ในภาษาจีนเองก็มีคำที่ไว้ใช้การกล่าวลาอยู่หลายคำ เพื่อนๆสามารถเรียนรู้ได้ตัวตนเอง จดจำและนำไปใช้ได้ เผื่อสักวันจะได้ใช้บอกลามิตรรักจากแผ่นดินใหญ่ พูดแล้วน้ำตาซึม แต่ไม่เป็นไรนะ คิดซะว่า "จากกันวันนี้เพื่อพบกันใหม่วันหน้า" ก็แล้วกัน >< 1. 再见 จ้าย เจี้ยน พบกันใหม่ 2. 明天见 หมิง เทียน เจี้ยน พรุ่งนี้เจอกัน 3. 有空长联系. โหย่วโค่งฉางเหลียนซี่ ติดต่อมาบ่อยๆนะ 4. 回头见. หุย โถว เจี้ยน แล้วพบกันใหม่ 5. 对不起, 我先走了. ตุ้ยปู้ฉี่ หว่อเซียนโจ่วเลอ ขอโทษด้วย ฉันไปก่อนนะ 6. 拜拜啦! ไป้ไป้ ลา (เลียนเสียงมาจาก bye bye นั่นเอง) 7. 我想现在是我们告辞的时候了。 หว่อ เซี่ยง เสี้ยนไจ้ ชื่อหว่อเมิน เก้าฉือ เตอ ฉือโหว้ เลอ ฉันคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องลาไปก่อนแล้ว 8. 失陪了 ซือ เผย เลอ ซือเผยเลอ ขอตัวก่อนนะ, ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนได้ 9. 我正在要告辞了 หว่อ เจิ้ง ไจ้ เหย้า เก้า ฉือ เลอ ตอนนี้ฉันกำลังจะบอกลาแล้วล่ะ 10.
อุ๊ย! โอ้ย! โธ่ถัง! อร๊ายย!! อะไรแบบนี้แต่จัดอยู่คนละหมวดกับคำลงท้ายพวกข้างบนนี้ค่าา สุ่ยหลินเคยเขียนโพสไว้แล้วที่12 คำอุทานที่เจอบ่อยๆ ในภาษาจีน คลิกที่นี่เลยค่ะ^^ 我们一起学习汉语吧。[Wǒmen yīqǐ xuéxí hànyǔ ba] = งั้นเรามาเรียนภาษาจีนด้วย กันเถอะ นะจ๊ะ สุ่ยหลิน^^
และถ้าใช้กับจำนวน ก็จะหมายถึงต้องมีหรือต้องใช้สิ่งของนั้นจำนวนมาก ถึงจะเกิดกริยาขึ้นมาได้ เช่น 我 昨天晚上十二点 才 睡觉 。 [Wǒ zuótiān wǎnshàng shí'èr diǎn cái shuìjiào. ] เที่ยงคืนเมื่อวานกว่าชั้นจะได้นอน (อารมณ์เซ็ง เบื่อ ง่วงที่นอนดึก) 她 四十岁 才 结婚 。 [Tā sìshí suì cái jiéhūn. ] เธออายุ 40 เพิ่งจะแต่งงาน (อายุเยอะแล้ว ถึงจะได้แต่งกับเขาซะที! ) 我花了 两百块钱 才 买 到的新衬衣呀! Wǒ huāle liǎng bǎi kuài qián cái mǎi dào de xīn chènyī ya! ฉันจ่ายไปตั้ง 200 เหรียญถึงจะซื้อเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ได้! (ต้องใช้ตังค์เยอะ จึงจะซื้อได้! ) 2. 才 + (กริยา) + จำนวน + ลักษณนาม + คำนาม ในโครงสร้างนี้ 才 ยังสามารถสื่อว่า จำนวนน้อย ระดับต่ำ มีความหมายเทียบเท่ากับ "只" ความหมายของ 才 ในที่นี้ แปลว่า "แค่" ซึ่งก็คือ มีจำนวนน้อยกว่าที่ผู้พูดคาดคิด 他考上大学那年 才 16岁 。 Tā kǎoshàng dàxué nà nián cái shíliù suì. เขาสอบเข้าเรียนในวิทยาลัยในปีนั้นอายุเพียง 16 ปี 我们大学一个班 才 20个学生 ,你们班怎么这么多? Wǒmen dàxué yī gè bān cái èrshí gè xuésheng, nǐmen bān zěnme zhème duō? มหาวิทยาลัยของพวกเรา 1 ห้อง มีนักเรียนแค่ 20 คน ทำไมชั้นเรียนของพวกเธอมีเยอะขนาดนี้? 你这么搞 才 55公斤 ,一点儿也不胖。 Nǐ zhème gǎo cái wǔshíwǔ gōngjīn, yīdiǎnr yě bù pàng.
คำที่สอง 吗 [ma] 吗 นี้ใช้ต่อท้ายประโยคที่เป็นคำถามค่ะ คนถามก็ต้องการคำตอบ ถ้าไม่ตอบเค้าอาจมีเสียใจหรือมีงอนกันได้ ถ้าเทียบกับคำไทย ก็ "ไหม" หรือ "มั๊ย" วิธีการใช้ช่างเหมือนภาษาไทยเด๊ะๆ คือต่อท้ายประโยค คำตอบก็คือ yes หรือ no กับคำถามนั้นนั่นแล เช่น 你知道了吗? [nǐ zhīdàole ma] เธอเข้าใจแล้วใช่ มั๊ย? (อย่าลืมเครื่องหมาย? ในประโยค 吗 ด้วยนะคะ^^) 3. คำที่สาม 呢 (ne) 呢 นี้พิเศษกว่าชาวบ้านเค้าค่ะ ใช้ได้หลากหลายแนวนะ เช่น เป็นคำถามที่ถามความคิดเห็นให้ตอบตามใจชอบ แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า ".... ล่ะ" 我吃饭了,你呢? [wǒ chīfàn le. nǐ ne? ] ชั้นกินข้าวแล้ว, เธอ ล่ะ? เป็นคำถามแบบแนะนำชักชวนกลายๆ ค่ะ ออกแนวซอฟท์ๆ 今天天气太好了,你 为什么不出去 玩儿呢? [jīntiān tiānqì tài hǎole, nǐ wèishéme bù chūqù wán er ne? ] วันนี้อากาศดีจัง ทำไมเธอไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกมั่ง ล่ะ ? เติมท้ายคำถามทำให้ดูซอฟท์ลง ประหนึ่งใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม (จะไม่มี 呢 ก็ได้ แต่จะดูแข็งๆ แห้งๆ หน่อยนึง) 这是谁的笔呢? [zhè shì shéi de bǐ ne? ] นี่ปากกาใคร ล่ะ นอกจากนี้ 呢 ก็ใช้ในประโยคบอกเล่าก็ได้อีกนะคะ เช่น 我正吃饭呢。 [wǒ zhèng chīfàn ne] ชั้นกินข้าวอยู่ ล่ะ เป็นการเน้นกริยาว่ากำลังทำอยู่ค่ะ เห็นป่าวคะ ว่าไม่ยากเล้ย เหมือนภาษาไทยเด๊ะๆ คราวนี้ล่ะ เราก็จะได้ใช้คำลงท้ายเป็นแล้ว แถมยังใช้ถูกสถานการณ์เหตุการณ์อีกด้วย นอกจากคำลงท้าย เสริมน้ำเสียง แล้ว คนจีนเค้ายังมีคำอุทานอีกด้วยล่ะ เหมือนภาษาไทยว่า เอ๊ะ!